ทั่วไป

สรุปขั้นตอนการจัดส่งสินค้า แต่ละขนส่งที่ไปสัมผัสพบเจอมากับตัว

สรุปขั้นตอนการจัดส่งสินค้า แต่ละขนส่งที่ไปสัมผัสพบเจอมากับตัว ปักโน๊ตไว้เลยครับผม

หลายครั้งที่เราต้องไปส่งสินค้า แต่ไม่รู้ขั้นตอนเป็นยังไง เริ่มจากตรงไหน ต้องเตรียมอะไรมาบ้าง เพราะแต่ละเจ้า หรือแต่ละขนส่ง ก็มีขั้นตอนที่ไม่เหมือนกันซะทีเดียว

 

ชอบขนส่งไหน ติดใจการบริการของเจ้าใด ก็แล้วแต่ความสะดวกน่ะครับ

 

บางขนส่งก็จะเตรียมเครื่องมือ หรือการอำนวยความสะดวกให้เราเต็มรูปแบบ บางขนส่งก็ ไม่ได้เตรียมอะไรให้เราเลย เรามาดูกันว่า แต่ละขนส่งเป็นยังไงกันบ้าง

ส่วนที่ผมเขียนนี้ ทราบมาจากประสบการณ์ตรง จากที่ผมได้สัมผัสมา ณ ปัจจุบัน (ปี 2563) ต่อไปผมไม่แน่ใจว่า ขั้นตอนจะมีการปรับเปลี่ยนไปแต่ประการใดของแต่ละขนส่ง

*ปล. เขียนเท่าที่ไปใช้บริการมาน่ะครับ หากได้ใช้บริการเจ้าอื่นๆ จะมาเขียนให้ทราบกันน่ะครับ

 

#ส่งของแบบ kerry ปกติ (เดินเข้าไปที่สาขา kerry ด้วยตัวเอง)

  1. นำสินค้าที่ต้องการส่ง แพ็คใส่กล่อง ใส่ถุงที่ต้องการ หรืออาจจะนำสินค้าไปแพ็คในสาขาก็ได้ (Kerry มีกล่อง จำหน่าย แต่ถ้าเป็นถุง จะฟรี แต่เวลาคิดราคาก็จะคิดตามขนาดถุงอีกที)
  2. หยิบบัตรคิว แล้วรอพนักงานเรียก หลังจากนั้น แล้วก็ไปที่เคาน์เตอร์ตามในบัตรคิว
  3. เอาบัตรประชาชนแล้วยื่นให้พนักงานกรอกข้อมูล จะมีการถามว่า พัสดุคืออะไร ก็ตอบไปถามความจริง เพราะเขาจะแจ้งว่าพัสดุอยู่ในเงื่อนไขการรับประกันสินค้าหรือไม่
  4. พนักงานก็จะแจ้งราคาค่าขนส่งให้เราทราบ เราก็จ่ายเงิน เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

 

#ส่งของแบบ Kerry Dropoff (Shopee)

  1. แพ็คสินค้าให้เรียบร้อย หรือไปแพ็คที่สาขา Kerry ได้
  2. เอาใบปะหน้าที่ปริ้นจากเว็บ Shopee แปะไว้ที่กล่องที่เราจะส่ง (หรือถ้าไม่มีเครื่องปริ้นก็สามารถไปปริ้นที่สาขาได้ โดยการเข้าแอพ เปิดหน้า barcode ของสินค้าชิ้นนั้น แล้วใช้เครื่องสแกนที่ตู้ของสาขา Kerry สแกนได้เลย หลังจากนั้นใบปะหน้าก็จะออกมา)

สรุปง่ายๆ แพ็คสินค้า > ไปที่ร้าน > ตู้สแกน > เลือก dropoff > สแกน barcode ที่ใบปะหน้าในแอพ Shopee มือถือ > เอาสติ๊กเกอร์ แปะที่กล่อง > ปริ้นใบเสร็จ > ให้เจ้าหน้าที่

 

#ส่งของแบบ Kerry Pickup

เข้าเว็บหรือแอพ Kerry แล้วหลังจากนั้น ก็แจ้งความต้องการไปว่า ต้องการใช้ kerry pick ตามที่อยู่ … แล้วจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามารับสินค้าเรา ถึงที่อยู่ที่เราได้แจ้งเข้าไว้ (ต้องอ่านรายละเอียดเวลาที่เขาเข้ามาให้ดีๆ จะได้ไม่เสียเวลารอของลูกค้า)

 

#ส่งของแบบลงทะเบียน กับไปรษณีย์ไทย

  1. แพ็คสินค้าให้เรียบร้อย หรืออาจจะนำไปแพ็คที่สาขาไปรณีย์เองก็ได้ สามารถซื้อกล่อง หรือซอง ได้ที่ไปรษณีย์ได้เลย (แต่แนะนำคือ หาซื้อซอง หรือกล่องจากข้างนอกดีกว่า เพราะราคาจะถูกกว่าเยอะ)
  2. ปริ้นใบปะหน้า ที่ทำขึ้นเอง หรือสามารถเขียนจ่าหน้าซอง ที่อยู่ผู้ส่ง และผู้รับให้เรียบร้อย
  3. หยิบบัตรคิว รอเรียก เมื่อเรียกก็เดินไปที่เคาน์เตอร์ และนำสินค้าที่แพ็ค กับบัตรประชาชน ยื่นให้พนักงาน
  4. พนักงานจะแจ้งราคา ค่าขนส่งให้เรา เราก็ชำระค่าขนส่ง ก็ถือเป็นอันเสร็จเรียบร้อย

 

#ส่งของแบบ EMS ของไปรษณีย์ไทย

  1. แพ็คสินค้าหรือ นำสินค้าไปแพ็คที่สาขาไปรษณีย์ไทย
  2. ปริ้นใบปะหน้า แปะใบปะหน้า
  3. ไปจัดส่งได้เลย ที่ สาขาไปรษณีย์ โดยหยิบบัตรคิว
  4. รอเรียกคิว ยื่นสินค้าที่แพ็คไว้ กับบัตรประชาชน รอพนักงานกรอกข้อมูล
  5. พนักงานจะแจ้งค่าขนส่ง แล้วเราก็ชำระเงินค่าขนส่ง เท่าที่ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

 

#ส่งของแบบ J&T Express ปกติ (เดินเข้าไปที่สาขา J&T Express ด้วยตัวเอง)

  1. นำสินค้าที่ต้องการส่ง แพ็คใส่กล่อง ใส่ถุงที่ต้องการ หรืออาจจะนำสินค้าไปแพ็คในสาขาก็ได้ (J&T Express มีกล่อง จำหน่าย)
  2. หยิบบัตรคิว แล้วรอพนักงานเรียก หลังจากนั้น แล้วก็ไปที่เคาน์เตอร์ตามในบัตรคิว
  3. พนักงานก็จะแจ้งราคาค่าขนส่งให้เราทราบ เราก็จ่ายเงิน เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

 

เป็นไงกันบ้างอ่าน สรุปขั้นตอนการจัดส่งสินค้า มาถึงตรงนี้ก็จะรู้ว่า แต่ละแบบการจัดส่งนั้นจะมีขั้นตอนที่ไม่เหมือนกันใช่ไหมครับ ก็ต้องศึกษาก่อน หรือเตรียมตัวก่อนเข้าไปก่อนจะดีที่สุด จะได้ไม่เสียเวลาของเราด้วย (หากเข้าไปแบบไม่รู้อะไรเลย บ้างครั้งต้องเสียเวลาออกไปซื้อนู้นนี้ หรือบางครั้งก็ต้องจ่ายเงินที่สูงกว่าปกติ เพื่อจัดส่งสินค้าชิ้นนั้นๆ)

 

หวังว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ต่อคุณ และอาจจะเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นด้วย หากถูกใจ ก็กดไลค์ กดแชร์ได้น่ะครับ ยิ่งแชร์ในเฟส ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันด้วยยิ่งดีครับ

หากต้องการอ่านบทความ ทั่วไป เพิ่มเติม คลิกได้ที่นี่

ทาง ridshare ก็ฝากติดตามบทความต่อๆไปของเรา และเป็นกำลังใจให้ด้วยน่ะครับ หากผิดพลาดจุดไหน ส่วนใด อยากเพิ่มเติม สามารถแจ้งเข้ามาได้น่ะครับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *