How Toการตลาดออนไลน์ทั่วไป

คำศัพท์การตลาดออนไลน์ คำศัพท์การตลาด รวบรวมให้ ที่มักใช้กัน Market Online

คำศัพท์การตลาดออนไลน์ นั้นมีความสำคัญมาก เหล่านักการตลาด เราไม่ต้องพูดถึง เพราะสิ่งนี้เป็นเครื่องมือทำมาหากินของพวกเขา ถ้าไม่รู้ก็จะลำบาก ดังนั้นเขาน่าจะรู้กันอยู่แล้ว

ที่สำคัญกลุ่มที่ต้องรู้นั้นก็คือ เหล่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ นี่ถ้าจะทำธุรกิจผ่านทางโลกออนไลน์ ถ้ารู้จะทำให้เพิ่มยอดขายได้มากขึ้น เช่น ทำเว็บขายของ ไม่ว่าจะจ้างโปรแกรมเมอร์เขียนขึ้นมาใหม่ หรือว่า พัฒนากับเว็บสำเร็จรูป ก็ตาม สิ่งหนึ่งที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ควรจะทราบ เราสามารถติดตาม และวัดผล ได้ จากการเข้าชมเว็บไซต์ ว่า

  • วันนึง แต่ละหน้า มีคนเข้ามากน้อยเท่าไร
  • เข้ามาแล้วไปหน้าไหนต่อบ้าง
  • ปุ่มสั่งซื้อ โดนกดบ้างไหม แต่ละวัน
  • เป็นต้น

โดยคำศัพท์เหล่านี้ จำเป็นมากๆ  ridshare ได้รวบรวมคำศัพท์ไว้พอสมควร   ดังนั้น ridshare ไม่ขอเกริ่นน้ำๆ ให้มากความละ เชิญทุกคนมาอ่านได้เลย

คำศัพท์การตลาดออนไลน์

  1. Agent คือ ตัวแทน > อธิบายเพิ่มคือ บุคคล กลุ่มบุคคลหรือบริษัท ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทน และนายหน้าในการซื้อหรือขายหรือบริการต่างๆ  เช่น ตัวแทนจำหน่าย นายหน้าขายที่ดิน บริษัทรับงาน เป็นต้น
  1. Lead คือ โอกาสทางการขาย > คนที่ได้แสดงความสนใจในสิ่งที่เรานำเสนอและมีข้อมูลการติดต่อ (Contact information) ที่เราสามารถระบุตัวตนแน่ชัดได้ และสามารถติดต่อได้
  1. Benchmarking คือ การเปรียบเทียบ > การวัดและเปรียบเทียบ ผลิตภัณฑ์ บริการ และวิธีการปฏิบัติกับองค์กรที่สามารถทำได้ดีกว่า เพื่อนำผลของการเปรียบเทียบมาใช้ในการปรับปรุงองค์กร
  1. Feature คือ ลักษณะ > ใช้ในการบรรยายว่าสินค้ามีลักษณะรูปร่างภายนอกเป็นยังไง รวมไปถึงคุณสมบัติที่โดดเด่นต่างๆ
  1. Campaigns คือ แคมเปญ > การกระทำการหรือวางแผนเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมาย การรณรงค์ การแข่งขัน เช่น การจัดแคมเปญกระตุ้นยอดขาย ในช่วงเทศกาลต่างๆ
  1. Landing Page คือ หน้าเว็บไซต์ (มักมีหน้าเดียว) ที่เรากำหนดไว้ในการลงโฆษณา หรือแคปเปญดิจิทัลออนไลน์ต่างๆ โดยสื่อให้ลูกค้าเห็นเนื้อหาที่เราต้องการจะสื่อ เน้นความกระชับและเข้าใจง่าย
  1. Pageview คือ จำนวนการเปิดหน้าเว็บไซต์ของคุณ ถ้าคำนวณกับคนที่เข้ามาชมเว็บไซต์ทั้งหมด ก็จะบอกได้ว่าแต่ละวันมีคนเข้าชมเว็บไซต์ของเราเท่าไร เราสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ ไปวิเคราะห์เชิงการตลาดต่อไป
  1. Traffic คือ การจราจรหรือ การเข้าออกเว็บไซต์ ถ้า traffic เว็บไซต์นั้นๆ มากแสดงว่า มีเนื้อหาที่ดี หรือมีสิ่งที่ผู้คนสนใจ ก็อาจจะทำให้ยอดขายของเราเพิ่มขึ้น
  1. Conversion คือ ปริมาณการตอบสนองของกลุ่มเป้าหมายที่มีต่อสื่อทางการตลาดที่เราทำไว้ ไม่ว่าจะเป็น การตอบรับโดยการกล่าวถึง การเข้าร่วม การสมัครสมาชิก การสั่งซื้อ หรือกดปุ่มรับข้อมูลข่าวสาร ก็ได้ทั้งนั้น ทำให้เรารู้ว่า สื่อที่เราทำไปนั้น ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้หรือไม่ มักใช้ในการวัดผล
  1. Bounce Rate คือ ตัวเลขจำนวนที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ เข้าไปเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์นั้นๆ และกดปิดออกไปทันที โดยปกติค่าตัวเลขสูงๆ แสดงถึงว่าคอนเทนต์ในเว็บไซต์ยังไม่น่าสนใจ ซึ่งสามารถดูควบคู่กับตัวเลข Time On Site ได้ว่าระยะเวลาที่มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราใช้ระยะเวลานานเท่าไหร่
  1. Viral หรือ Viral Marketing คือ การทำการตลาดแบบไวรัล โดยอาศัยหลักการเสนอความแปลกใหม่ ความแตกต่างที่โดนใจ ให้แก่กลุ่มลูกค้า เพื่อให้เกิดการส่งต่อที่รวดเร็ว ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ
  1. Content Marketing คือ การทำการตลาดโดยใช้เนื้อหา หรือบทความ ที่ดี มีประโยชน์ต่อกลุ่มลูกค้า บางครั้งการนำเสนอเนื้อหาก็ไม่ได้ทำขึ้นเพื่อขายสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่อาจจะเป็นการสร้างเนื้อหา เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับกิจการของตนเอง หรือการเขียนบทความที่กำลังเป็นกระแส เป็นที่นิยม เพื่อตอบสนองความต้องการให้แก่กลุ่มลูกค้า ที่อาจจะได้ผลดีกว่าการโฆษณาทางตรงด้วยซ้ำ
  1. Keyword คือ คำสำคัญในการค้นหาผ่านกูเกิล และเป็นคำที่คุณสามารถกำหนดขึ้นมาได้ เพื่อให้บทความ หรือเว็บไซต์ของคุณถูกนั้นถูกค้นพบได้ง่าย
  1. Internet Marketing คือ การบริหารจัดการด้านการตลาดให้กับเว็บไซต์ ผ่านทางอินเตอร์เน็ต ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น เพิ่มความน่าเชื่อถือ เพิ่มความนิยมการโปรโมทเว็บไซต์ เพิ่มความน่าเชื่อถือ ตลอดจนยอดขายของสินค้าหรือบริการ
  1. Search Engine Marketing (SEM) คือ การทำการตลาดผ่าน เซิร์ชเอ็นจิน เนื่องจากอินเตอร์เน็ตเป็นแหล่งรวมข้อมูล และกำลังได้รับความนิยมมากในการใช้งานปัจจุบันด้วยความที่ข้อมูลมีอยู่จำนวน มากทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้ จึงทำให้เกิดการพัฒนาระบบสืบค้นข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตหรือเสิร์ชเอนจิ้น (Search Engine) ขึ้นมาโดยระบบสืบค้นข้อมูลนั้นเริ่มจากการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการจัดเป็นหมวดหมู่ เพื่อการค้นหาแต่เมื่อเว็บไซต์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นและข้อมูลต่างๆ มีความหลากหลายและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น จึงต้องพัฒนาการค้นหาข้อมูลด้วยการกำหนดคำสำคัญ (Keyword) เพราะทำให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลได้ใกล้เคียงกับความต้องการมากที่สุดและจากการ ที่ผู้ใช้จำนวนมาก ทำการสืบค้นข้อมูลผ่านเสริช์เอนจิ้น เพื่อที่จะหาสินค้าหรือบริการที่ต้องการทำให้เกิดแข่งขันของเว็บไซต์ต่างๆ ทั่วโลก ที่ต้องการจะผลักดันเว็บไซต์ของตนเองให้เข้าไปติดอันดับต้นๆ ของ การค้นหา โดยการทำให้เว็บไซต์ของตนเองเข้าไปติดอันดับต้นๆ ของการค้นหาใน Search Engine นั้นเอง
  1. Search engine optimization (SEO) คือ การปรับปรุงเว็บไซต์ด้วยเทคนิคต่างๆ เพื่อให้เว็บไซต์ไปติดอันดับในเว็บเสิร์ชเอนจิน เช่นที่ Google, Yahoo หรือ MSN ด้วยคำสำคัญที่ต้องการค้นหาแล้ว จะปรากฏลิงก์เว็บไซต์ของเราเพื่อทำให้ติดอันดับต้นๆ
  1. Google Adwords คือ การโฆษณาออนไลน์แบบจ่ายเมื่อคลิก (Pay-Per-Click หรือ PPC) โดยใช้คีย์เวิร์ดหรือคำค้นหาที่ตรงจุดกลุ่มเป้าหมายในเว็บไซต์ของGoogle โฆษณาจะปรากกฎในด้านขวามือ Google เป็นเว็บไซต์ค้นหาเบอร์หนึ่งของโลก Search Engine (ที่เขียนว่า ลิงค์ผู้สนับสนุน หรือ Sponsor link) เมื่อมีการคิลกที่โฆษณากลูเกิลจะทำการหักเงินตามราคาคีย์เวิร์ดที่เราเลือก ใช้ไปเรื่อยๆ จนกว่าเงินที่เราลงโฆษณาไว้จะหมด
  1. Google AdSense  คือ บริการจาก Google ที่ให้ผู้ที่มีเว็บไซต์ สามารถหารายได้โดยการนำ Code ที่ได้จากการสมัครเป็นสมาชิกของ Google มาใส่ไว้ที่เว็บไซต์ของตนเอง ซึ่ง Code นั้นจะเป็น โฆษณาที่ส่งมาจาก Google โดยโฆษณานั้นๆ จะเป็นโฆษณาที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเพิ่มรายได้ให้เว็บไซต์ โดยรูปแบบของโฆษณา ส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบตัวอักษร (Text) บางทีอาจจะมีในรูปแบบแบนเนอร์
  1. Google Analytic คือ เครื่องมือของ google ที่ใช้ช่วยในการวิเคราะห์และเก็บสถิติต่างๆ ของผู้เข้าชมเว็บไซต์ เพื่อนำข้อมูลไปทำการตลาด การทำโฆษณาออนไลน์ หรือปรับปรุงเว็บไซต์ให้น่าสนใจ จะส่งผลให้สามารถเพิ่มยอดขายเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
  1. Affiliate Marketing คือ การทำการตลาดผ่านทางผู้แทนโฆษณา โดยทางบริษัทจะจ่ายเงิน ค่าตอบแทนให้กับผู้แทนโฆษณาก็ต่อเมื่อ ผู้แทนโฆษณาเหล่านั้นได้แนะนำคนเข้ามายังเว็บไซต์ ของบริษัท และคนคนนั้นได้ทำธุรกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งที่ทางบริษัทกำหนดไว้ เช่น ซื้อสินค้าหรือ สมัครสมาชิก เป็นต้น
  1. Advertainment คือ การทำโฆษณาโดยแฝงไปกับความบันเทิง ซึ่งก็คือความสัมพันธ์ที่ส่งเสริมกันและกัน ของธุรกิจบันเทิง กับโฆษณา ที่กำลังระบาดไปทั่วโลก
  1. Native Advertising คือ การทำโฆษณา แบบไม่ให้ผู้เข้าชมรู้สึกตัวว่านี้คือการโฆษณา ไม่ได้ตั้งใจขายของมากเกินไป เมื่อดูจบ หรืออ่านจบถึงจะรู้สึกว่านี้คือโฆษณา
  1. CTA (call to click) คือ ปุ่มกดหรือป้ายแบนเนอร์ต่างๆ ใช้เพื่อการกระตุ้นดึงดูดใจผู้เข้าชมให้ คลิกโฆษณาเพื่อทำการซื้อสินค้า สมัครสมาชิก รวมถึงอ่านข้อมูลข่าวสาร โดยวิธีการที่น่าสนใจ
  1. CTR (Click Through Rate) คือ อัตราส่วนที่บ่งบอกว่าผู้เข้าชมหรือกลุ่มเป้าหมายของเรานั้น คลิกโฆษณาของเรามากน้อยแค่ไหน
  1. CPO (Cost Per Order) คือ ต้นทุนการโฆษณาต่อการขาย
  1. CPC (Cost Per Click) คือ การคิดค่าโฆษณาต่อการคลิกโฆษณา 1 ครั้ง โดยไม่สนใจว่าโฆษณานั้นได้แสดงผลต่อผู้ชมไปแล้วกี่ครั้ง
  1. CPA (Cost Per Action) คือ การโฆษณาในรูปแบบที่คิดค่าใช้จ่ายตามจำนวนจริงจากผลลัพธ์ที่ได้ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนการสมัครสมาชิกของผู้เข้าชม หรือจำนวนการซื้อสินค้าของกลุ่มเป้าหมาย เป็นต้น
  1. CPM (Cost Per Thousand Impressions) คือ การคิดค่าโฆษณาต่อการแสดงโฆษณาออนไลน์ 1,000 ครั้ง โดยที่ผู้ลงโฆษณาจะจ่ายเงินตามจำนวนครั้งที่แสดงผลโฆษณาเท่านั้น
  1. Infographic (Information Graphic) คือ ภาพกราฟฟิกที่บ่งบอกถึงข้อมูล อาจจะเป็นสถิติ เกร็ดความรู้ หรือเรียกได้ว่าคือข้อมูลอย่างย่อเพื่อทำให้เกิดความเข้าใจที่ง่าย เพียงแค่กวาดตามอง
  1. KPI (Key Performance Indicator) คือดัชนีชี้วัดความสำเร็จของงาน โดยจะแสดงรายละเอียดของงานที่สำเร็จ หรือไม่สำเร็จออกมา โดย KPI เป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
  1. Social Commerce คือ เครือข่ายสังคมค้าขายออนไลน์ เป็นส่วนหนึ่งของระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือระบบอีคอมเมิร์ช โดยวิธีการคือการใช้โซเชียลมีเดีย เข้ามายกระดับการทำธุรกิจค้าขายบนโลกออนไลน์ ให้ดีกว่าเดิม ให้สะดวกกว่าเดิม
  1. Big Data คือ ข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในบริษัทของคุณ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่มีแหล่งที่มาจากบริษัท หรือข้อมูลที่มาจากภายนอกอย่างโซเชียลมีเดีย โดยจะเรียกข้อมูลเหล่านี้ว่าข้อมูลดิบ
  1. Ideation คือ แนวความคิด ความคิด ที่สามารถปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ได้

Ref :  ctxasia , am2bmarketing , yengobuzz

บทความที่เกี่ยวข้อง

คำศัพท์แม่ค้าออนไลน์ ที่เรามักจะได้ยินกันในสื่อโซเชียลต่างๆ คลิกอ่าน

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆ ทุกคนน่ะครับ หากถูกใจ ก็กดไลค์ กดแชร์ได้น่ะครับ ยิ่งแชร์ในเฟส ไว้แต่เนิ่นๆ ก็ดี ให้เพื่อนๆ ได้อ่าน เพื่อทราบก่อน ว่า คำศัพท์การตลาดออนไลน์ มีอะไรบ้าง ก่อนที่จะทำการตลาดออนไลน์ 🙂

ดั่งที่เขาว่ากันว่า “รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” ถ้าเรารู้ขั้นตอนแล้ว เมื่อเราลงมือทำ ทำไมเราจะทำไม่ได้ละ จริงไหม? เพื่อนๆ

ทาง ridshare ก็ฝากติดตามบทความต่อๆไปของเรา และเป็นกำลังใจให้ด้วยน่ะครับ หากผิดพลาดจุดไหน ส่วนไหน อยากเพิ่มเติมหรือมีวิธีที่ดีกว่านี้ สามารถแจ้งเข้ามาได้น่ะครับ

ช่องทางการติดตาม Ridshare (บังริด)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *